คู่รัก LGBTQ+ ซื้อบ้านร่วมกันต้องเตรียมอะไรบ้าง?
หากพูดถึง นิยาม “บ้าน” แม้ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่บ้านก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ความรัก และเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต ในยุคที่ความหลากหลายทางเพศได้รับความเท่าเทียม และการยอมรับมากขึ้นอย่างชัดเจน การมีบ้านหลังแรกร่วมกับคนรัก ไม่ควรเป็นสิ่งที่ “เลือกได้เฉพาะบางคู่” อีกต่อไป
คู่รักLGBTQ+ หรือคู่รักเท่าเทียมที่เริ่มต้น กำลังมองหาซื้อบ้านและลงหลักปักฐานอนาคตร่วมกัน ณ ปัจจุบัน มีทางเลือกให้สำหรับคู่รักLGBTQ+ ซื้อบ้านร่วมกัน ได้อย่างไร เรามาทำความเข้าใจกันเลย
คู่รัก LGBTQ+ สามารถกู้ร่วมซื้อบ้านได้หรือไม่?
ปัจจุบัน คู่รัก LGBTQ+ สามารถกู้ร่วมซื้อบ้านได้ โดยเฉพาะหลังจากที่ประเทศไทยผ่าน กฎหมายสมรสเท่าเทียม (มีผลบังคับใช้วันที่ 23 มกราคม 2568) ทำให้คู่รักLGBTQ+ มีสิทธิ์ทางกฎหมายเหมือนคู่สมรสชายหญิงทุกประการ เพียงแต่ต้องมีหลักฐานแสดงความสัมพันธ์หรือเอกสารการอยู่ร่วมกัน
ธนาคารในไทยหลายแห่งเริ่มเปิดรับและสนับสนุนแล้ว การกู้ร่วมซื้อบ้าน สำหรับคู่รัก LGBTQ+
คู่รัก LGBTQ+ กับเงื่อนไขการกู้ร่วมซื้อบ้าน ต้องรู้ก่อนยื่นกู้!
เข้าใจให้ชัด เตรียมให้พร้อม ก่อนยื่นกู้ซื้อบ้านร่วมกัน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเข้าเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
1. มีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างชัดเจน
- ซื้อบ้านร่วมกันและเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม
- แสดงรายได้หรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นร่วมกัน เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าบำรุง ค่าส่วนกลาง ฯลฯ
- มีการบริหารทรัพย์สินร่วม เช่น บัญชีเงินฝากร่วม เอกสารการชำระหนี้ร่วม
2. ประกอบธุรกิจร่วมกัน หรือมีความสัมพันธ์ในลักษณะพาร์ตเนอร์
- สามารถแสดงเอกสารการประกอบธุรกิจที่มีชื่อทั้งสองฝ่าย
- บัญชีบริษัทที่ใช้ร่วมกัน หรือแหล่งรายได้ที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองฝ่าย
3. เตรียมเอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์
- แม้จะไม่ใช่ข้อบังคับโดยตรง แต่การเตรียมเอกสารเหล่านี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธนาคารพิจารณาได้ง่ายขึ้น
- สัญญาว่าด้วยการอยู่อาศัยร่วมกัน
- รูปถ่ายการใช้ชีวิตร่วมกัน หรือจดหมายอธิบายความสัมพันธ์
- เอกสารค่าใช้จ่ายร่วม เช่น ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าอินเทอร์เน็ต ที่ออกในชื่อร่วมกัน
- หนังสือแสดงเจตจำนงในการถือครองทรัพย์สินร่วมกัน
คู่รัก LGBTQ+ ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้างก่อนซื้อบ้านร่วมกัน?
การมีบ้านหลังแรกด้วยกัน คือหนึ่งในก้าวสำคัญของความสัมพันธ์ที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะสำหรับ คู่รัก LGBTQ+ ที่เลือกจะสร้างชีวิตร่วมกันอย่างมั่นคง บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือพื้นที่ปลอดภัย พื้นที่ของความเข้าใจ และพื้นที่ที่ต้องอาศัยการวางแผนทั้งด้าน การเงินและสิทธิ์ทางกฎหมาย อย่างรอบคอบ
1. เงินดาวน์บ้าน โดยทั่วไปแล้ว จะกำหนดให้ผู้ซื้อบ้านต้องวางเงินดาวน์ประมาณ 10–20% ของราคาบ้าน
- ตัวอย่าง: หากบ้านราคา 3,000,000 บาท คุณอาจต้องเตรียมเงินดาวน์ 300,000–600,000 บาท
- หากกู้ร่วมกัน (Co-borrower) ต้องมีรายได้รวมที่สามารถผ่อนบ้านได้ตามเกณฑ์ของธนาคาร
2. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในวันโอนบ้าน เมื่อถึงวันโอนกรรมสิทธิ์บ้าน จะมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่ต้องจ่าย ณ สำนักงานที่ดิน เช่น:
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์: 2% ของราคาประเมิน
- ค่าจดจำนอง (กรณีมีสินเชื่อ): 1% ของวงเงินกู้
- ค่าภาษีและอากรอื่น ๆ (ขึ้นอยู่กับกรณีผู้ขาย)
4. ค่าตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ หลังจากซื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว คู่รักหลายคู่ต้องการตกแต่งให้เป็น “บ้านในฝัน” ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น:
- เฟอร์นิเจอร์: เตียง, โซฟา, โต๊ะกินข้าว ฯลฯ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: ทีวี, ตู้เย็น, แอร์ ฯลฯ
- งบประมาณโดยรวม: เริ่มต้นที่ประมาณ 100,000–500,000+ บาท แล้วแต่ความหรูหราและขนาดของบ้าน
5. ค่าบำรุงรักษาและค่าส่วนกลาง
- ค่าส่วนกลาง (กรณีบ้านจัดสรร/คอนโด)
คู่รัก LGBTQ+ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
เอกสารประจำตัวผู้ขอสินเชื่อ (ร่วมถึงผู้กู้ร่วม)
- สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน
เอกสารแสดงความสามารถทางการเงิน
- สลิปเงินเดือน 6 เดือนย้อนหลัง
- หนังสือรับรองเงินเดือน
- รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
ในกรณีลูกค้าทำธุรกิจส่วนตัว
- หนังสือรับรองการจดทะเบียน/ใบทะเบียนการค้า ไม่เกิน 3 เดือน
- บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ไม่เกิน 3 เดือน
- รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 1 ปี
เอกสารหลักประกัน เอกสารกลุ่มนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราซื้อบ้าน หรือปลูกบ้านเอง ซึ่งเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทรัพย์สิน
- สัญญาจะซื้อจะขาย โฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด
หากคุณกำลังวางแผนซื้อบ้านกับคนที่คุณรัก ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ความฝันนั้นเป็นไปได้แล้ววันนี้ อย่าลังเลที่จะเดินเข้าไปขอคำปรึกษาสินเชื่อ หรือหากคุณต้องการและทุกคนควรมีสิทธิ์ในการมีบ้านของตัวเอง เตรียมเอกสารแล้ว ทักมาหาเราได้เลยที่ Welcome Home Club by CP LAND