การมี Credit Score หรือคะแนนเครดิตที่ดี คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ธนาคารมั่นใจและอนุมัติสินเชื่อให้คุณได้ง่ายขึ้น พร้อมได้ดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่ดีกว่า Welcome Home Club by CP LAND ขอแนะนำบทความนี้ที่มาพร้อมกับ 4 วิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถเริ่มทำได้ทันที เพื่อยกระดับคะแนนเครดิตให้แข็งแรงก่อนยื่นกู้
รวมเคล็ดลับที่ควรรู้ก่อนกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้าน
1.เคลียร์หนี้เก่า ไม่สร้างหนี้ใหม่
การมี หนี้ค้างชำระ โดยเฉพาะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงอย่าง บัตรเครดิต หรือ สินเชื่อส่วนบุคคล ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้คะแนนเครดิต (Credit Score) ของคุณลดลงอย่างมาก เพราะระบบของเครดิตบูโรจะบันทึกข้อมูลการค้างชำระเป็นระยะเวลา และสิ่งนี้จะเป็นสัญญาณเตือนให้ธนาคารมองว่าคุณมีความเสี่ยงด้านการชำระหนี้
ทำไมต้องเคลียร์หนี้เก่าก่อน?
การวางแผนสร้าง Credit Score ที่ดี ไม่ได้เริ่มต้นจากการขอสินเชื่อ แต่เริ่มตั้งแต่การจัดการหนี้สินที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการเคลียร์หนี้เก่าที่ดอกเบี้ยสูง เพราะหนี้เหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างภาระทางการเงิน แต่ยังเป็นตัวถ่วงคะแนนเครดิตให้ต่ำลงในสายตาสถาบันการเงิน
หลีกเลี่ยงการสร้างหนี้ใหม่
หลายคนอาจคิดว่า “รูดบัตรเพิ่มอีกนิดคงไม่เป็นไร” หรือ “กดเงินสดเผื่อไว้ก่อน” แต่ความจริงคือ ทุกครั้งที่คุณสร้างหนี้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้บัตรเครดิตเต็มวงเงิน การทำสินเชื่อส่วนบุคคล หรือแม้แต่ผ่อนของชิ้นเล็ก ๆ ล้วนเพิ่มภาระการชำระหนี้รายเดือนทันที ซึ่งสิ่งนี้อาจส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการขอสินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อขนาดใหญ่ในอนาคต
2.ชำระหนี้ให้ตรงเวลา
หนึ่งในปัจจัยที่มีน้ำหนักมากที่สุดในการคำนวณ Credit Score คือ ประวัติการชำระหนี้ตรงเวลา แม้คุณจะมีรายได้สูงหรือไม่มีหนี้ก้อนใหญ่ แต่ถ้าชำระล่าช้าเพียงไม่กี่วัน ก็อาจทำให้คะแนนเครดิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด และข้อมูลนี้จะถูกบันทึกอยู่ในเครดิตบูโรนานถึง 3 ปี
สะท้อนวินัยทางการเงิน: ธนาคารและสถาบันการเงินมองว่าผู้ที่ชำระหนี้ตรงเวลามีความรับผิดชอบและมีวินัย
ลดความเสี่ยงถูกปฏิเสธสินเชื่อ: การมีประวัติชำระล่าช้าแม้เพียงไม่กี่ครั้ง อาจเป็นเหตุให้ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อ เพราะมองว่ามีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระในอนาคต
ป้องกันค่าปรับและดอกเบี้ยผิดนัด: ชำระล่าช้าทำให้ต้องจ่ายค่าปรับเพิ่มเติม และดอกเบี้ยสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น
เมื่อคุณรักษาวินัยการชำระตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ คะแนนเครดิตจะค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้นในไม่กี่เดือน ธนาคารจะมองว่าคุณเป็นผู้กู้ที่น่าเชื่อถือ และมีโอกาสได้รับสินเชื่อในวงเงินสูงขึ้น พร้อมอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า
3.จ่ายให้เกินขั้นต่ำเข้าไว้
การจ่ายบัตรเครดิตเพียงขั้นต่ำอาจช่วยเลี่ยงสถานะหนี้เสีย แต่จะทำให้ดอกเบี้ยพอกพูนและหนี้ลดลงช้ามาก การจ่ายเกินขั้นต่ำช่วยตัดเงินต้นเร็วขึ้น ลดดอกเบี้ย และปิดหนี้ได้ในเวลาสั้นลง อีกทั้งยังสร้างภาพลักษณ์ทางการเงินที่ดีต่อธนาคาร สะท้อนว่าคุณมีวินัยและพร้อมรับผิดชอบต่อภาระหนี้อย่างแท้จริง
4.อย่าขอสินเชื่อบ่อยเกินไป
หลายคนอาจไม่รู้ว่า การยื่นขอสินเชื่อแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ธนาคารจะบันทึกข้อมูลการขอสินเชื่อไว้ในเครดิตบูโร และเมื่อมีการตรวจสอบบ่อย ๆ ภายในระยะเวลาใกล้กัน อาจทำให้ดูเหมือนคุณมีความต้องการใช้เงินเร่งด่วน หรือมีปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งในสายตาสถาบันการเงินถือเป็นสัญญาณความเสี่ยง
นอกจากนี้ การขอบ่อยเกินไปยังอาจกระทบต่อ Credit Score โดยตรง เพราะระบบจะมองว่าคุณกำลัง “ช้อปสินเชื่อ” (Credit Shopping) จึงอาจลดคะแนนลงเล็กน้อย คำแนะนำคือควรวางแผนการขอกู้ให้ชัดเจน ยื่นกู้เฉพาะเมื่อมีความจำเป็น และเว้นระยะให้เหมาะสมเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือทางการเงิน
การสร้าง Credit Score ที่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับทุกคนที่วางแผนจะขอสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ หรือแม้แต่บัตรเครดิต เพราะคะแนนเครดิตไม่เพียงเป็นตัวเลขที่บอกความน่าเชื่อถือทางการเงิน แต่ยังเป็นกุญแจที่มอบโอกาสอนุมัติ วงเงิน และอัตราดอกเบี้ยที่คุณจะได้รับ การดูแลคะแนนเครดิตให้แข็งแรงจึงเป็นการลงทุนในอนาคตทางการเงินของคุณเอง สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าความสำเร็จในการขอสินเชื่อไม่ได้อยู่ที่การ “ได้วงเงิน” เพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การบริหารภาระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ และรักษาวินัยทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยทางการเงินในระยะยาว หากคุณกำลังมองหาทั้งบ้านเช่าคุณภาพ หรือมองหาบ้านในทำเลดี สามารถเริ่มค้นหาที่อยู่อาศัยที่ตรงใจได้เลยที่ Welcome Home Club by CP LAND